naiHua

ปิงปาลีย์ รีสอร์ท ที่พัก กาญจนบุรี

ปิงปาลีย์ รีสอร์ท

ปิงปาลีย์ รีสอร์ท

รีวิว ปิงปาลีย์รีสอร์ท ที่พักกาญจนบุรี ริมแม่น้ำแควน้อย

ไทรโยค กาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนึงที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสด และสายน้ำใสๆ อีกทั้งต้นปีนั้น ที่นี่อากาศจะเย็นกำลังดี และมีหมอกให้เห็นบ้างในบางครั้ง ผมเดินทางมาเที่ยวไทรโยคคราวนี้ เน้นพักผ่อนเป็นหลัก เนื่องจากเคยตระเวนเที่ยวมาบ้างแล้วก่อนหน้านี้ เหตุจูงใจอย่างนึงของการมาไทรโยคคราวนี้ คือ ปิงปาลีย์ รีสอร์ท ที่พัก กาญจนบุรี ที่ใครๆ ก็บอกว่าสวย บรรยากาศดี และมีบริการที่เป็นกันเอง แน่นอนสำหรับผม….ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น

ว่าแล้วก็จองกันเลยกับที่พักกาญจนบุรีที่ริมแม่น้ำแควน้อยแห่งนี้ ถ้าจะให้แนะนำว่าจองกับที่ไหนดี ก็ลองดูที่ Traveloka ก็ได้ เพราะมักจะได้ราคาดี บางครั้งถ้ามีส่วนลดโปรโมชั่นก็จะยิ่งถูกลงไปอีก หรือจะดูที่พักกาญจนบุรีอื่นๆ ก็ได้ มีให้เลือกเยอะทั้งแบบธรรมชาติหรือแบบหรูหรา เลือกเอาตามใจชอบได้เลย มีเปรียบเทียบราคากับรีวิวลูกค้าให้ดูก่อนด้วย

ผมเดินทางอย่างไม่เร่งรีบ ขับรถแบบเรื่อยเปื่อย ถึงไทรโยค บ่ายสองกว่าๆ นี่คือแผนที่ ปิงปาลีย์ รีสอร์ท โดยรวมๆ รีสอร์ทอยู่ระหว่าง ปราสาทเมืองสิงห์ กับ ถ้ำกระแซ

แผนที่ปิงปาลีย์

ทางเข้าปิงปาลีย์ รีสอร์ท จะเป็นประมาณนี้นะครับ

ย่างเข้าปิงปาลีย์ รีสอร์ทปั๊บ ก็รับ Welcome Drink กันก่อน มีเครืองดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น ให้เลือก
แต่ผมเลือกทั้งสอง อิอิ

คุ๊กกี้ทีนี่เค้าทำเองนะครับ แต่ละชิ้นก็นะช่างพอดีคำ (เอ๊ะ หรือคนอื่นเค้ากินหลายคำ)

ผมนั่งพูดคุยกับพี่ป้อม เจ้าของปิงปาลีย์ รีสอร์ท สักพัก เลยรู้ว่าที่นี่มีบริการนวดไทยด้วย
เอาน่ะไหนๆ ทริปนี้ตั้งใจมาพักผ่อนอยู่แล้ว จัดสักหน่อยล่ะกัน

ปิงปาลีย์ รีสอร์ท มีห้องแยกไว้เฉพาะสำหรับความเป็นส่วนตัว ของแขกที่ต้องการใช้บริการนี้

มีที่นอนสำหรับนวด 2 ที่ ซึ่งสามารถให้หมอนวดไปนวดที่ห้องพักก็ได้นะครับ

ช่วงบ่ายๆ แก่ๆ แบบนี้ นวดไป ฟังเพลงไป เคลิ้มเกือบหลับไปเลยล่ะ

ผมนวดเสร็จก็เย็นแล้วล่ะ แต่ยังพอมีแสงให้ถ่ายภาพอยู่บ้าง เดี๋่ยวเราไปเดินดูรอบๆ ปิงปาลีย์กัน

ออกจากห้องนวดซึ่งอยู่โซนด้านหน้ารีสอร์ท จะมีป้ายบอกทางห้องพักต่างๆ ไว้อย่างละเอียด

เดินตรงไปขวามือ เป็น ปิงปาลีย์ 3 และ ปิงปาลีย์ 4 แล้วห้องผมอยู่ตรงไหนเอ่ย
อ่ะ นั่นไงมีป้ายบอกทางอยู่ข้างหน้านั่น

พอถึงจุดนี้ โซนล่างจะเป็นห้องที่ติดริมแม่น้ำทั้งหมด จำป้ายนี้ไว้นะครับ เดี๋ยวจะงง กับคำอธิบายของผม
ทางซ้าย เป็นห้องปิงปาลีย์8 ถัดไป เป็นห้องปิงปาลีย์1
ส่วนปิงปาลีย์9 นั้นเป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างของปิงปาลีย์1 แต่ใช้ทางลงด้านขวา
ทางขวา จะเป็นห้องปิงปาลีย์ 2 ครับ
ส่วนที่เห็นหลังคาตรงกลางนั้น คือ Dining Room ครับ

แต่เอ๊ะ พอมองไปทางซ้าย สีสันของห้องปิงปาลีย์ 8 มันดึงดูดใจให้ต้องเดินไปแชะสักภาพ

รู้สึกว่าข้างๆ ห้องปิงปาลีย์ 8 จะมีบันไดลงไปข้างล่างนะนั่น แว๊บไปดูหน่อยดีไหม

อ๋อใช่ครับ มันเป็นทางลงไปห้องปิงปาลีย์ 1 ครับ ซึ่งเป็นห้องพักที่หันหน้าเข้าหาแม่น้ำแควน้อยเลยล่ะ

ส่วนที่เราเห็นอยู่ตรงกลางคือ Dining Room ซึ่งมีสองชั้น

แน่นอนครับที่นี่เป็นที่พัก ที่ติดริมแม่น้ำแควน้อยเลย ช่วงเย็นแบบนี้ต้องไปยลบรรยากาศริมน้ำกันก่อน

ไอ้ผมก็มัวแต่เดินชมเรื่อยเปื่อย เผลอแป๊บเดียว จะสิ้นวันอีกแล้วเหรอเนี่ย วันสุข นี่มันช่างสั้นเสียจริงๆ เนาะ

อื้มมม เก้าอี้ริมฝั่ง ไม่สิต้องเรียกว่าเก้าอี้ริมตลิ่ง เอาไว้นอนดูพระอาทิตย์ตกแบบชิลล์ๆ

กลางๆ ของทางขึ้นลงจะมีเบาะ อีกสองชุด ไว้ให้เรานอนเล่นฟังเสียงน้ำไหลกัน

หรือจะเลือกนั่งคุยกันไป มองวิวหาดทรายขาวฝั่งตรงข้ามไปด้วย ก็แหล่มไปอีกแบบ เรียกว่าเลือกได้ตามใจชอบ

ผมค่อยๆ พาร่างกายอันเบาหวิว ลงมาด้านล่าง ซึ่งจะมีสระว่ายน้ำแบบธรรมชาติให้เราเล่นกันได้แบบปลอดภัย

แต่ก็อย่างที่บอกครับ วันสุขมันแสนสั้น พระอาทิตย์ตกดินแล้วล่ะ คงต้องขึ้นฝั่งกันก่อน
เดี๋ยวจะมาสำรวจให้อีกทีพรุ่งนี้เช้า

ชะเฮ้ยยยย!!! สูงเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่ต้องกังวลครับ บันไดของปิงปาลีย์ รีสอร์ทเค้าใช้โครงเหล็กที่แข็งแรง
แต่หากเท้าเปียกก็ก้าวอย่างระวังกันด้วยล่ะ

เอาล่ะได้เวลาเข้าห้องพักกันแล้ว ไขกุญแจเปิดประตู…และนี่คือห้องพักของผมสำหรับค่ำคืนนี้

ใช่แว้ววว ห้องนี้คือห้อง ปิงปาลีย์ 2 นั่นเอง เรียกว่าเห็นคราแรก ก็ต้องบอกว่ารักเลยอ่ะ

ปิงปาลีย์2 เป็นห้องพักที่เห็นวิวด้านหน้าแบบพาโนรามา เป็นห้องที่วิวดีที่สุดเลยล่ะครับ

ด้านขวามือเป็นหาดทรายสีขาวเนียน น่าข้ามไปจังเนาะ

ประตูเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้ไม่มีอะไรมาบังลูกกะตา หากต้องการนอนชมวิวอยู่ในห้อง

ห้องน้ำนั้นเป็นห้องน้ำแบบ open ไม่มีประตู โว้ววว แบบนี้มันเหมาะสำหรับฮันนีมูนชัดๆ อิอิ

อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นมีให้อย่างครบครัน

เดินเข้าไปในห้องน้ำ ฝั่งขวาเป็นห้องอาบน้ำ แบบหลังคาใสขุ่น (มองไม่เห็นจากด้านนอก)

ส่วนฝั่งซ้ายเป็นอ่างอาบน้ำ ซึ่งมองไปทางหน้าต่าง นั่นก็คือแม่น้ำแควน้อย แหม ได้บรรยากาศพักผ่อนจริงๆ

มุมนี้มองจากห้องน้ำ ออกไปยังห้องนอน ไม่มีประตูนะครับ ไม่ต้องมองหา อิอิ

ดูมุมกว้างๆ ของห้องปิงปาลีย์2 กันบ้างครับ จะได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของห้อง

โอยยย ชักจะทนไม่ไหวแล้วล่ะ เจอที่พักแบบนี้ ตามันปรือๆ แล้วล่ะ

เปิดทีวีดูไปด้วยดีกว่า ที่ปิงปาลีย์ ติดจานรับสัญญาณทุกห้องนะ รู้สึกช่องหนังจะเยอะเป็นพิเศษ

มื้อค่ำที่นี่ ทุ่มตรง ก่อนจะอาบน้ำกินข้าว ชมห้องรอบ ๆ ไปก่อนเนาะครับ

เตียงที่นี่ใหญ่ดีครับ โดยเตียงจะเป็นปูนสีขาว ที่ยกขึ้นมาจากพื้นห้อง

ข้างๆ นั้นจะมีโซฟาตัวใหญ่ ไว้ให้นั่งเล่นกัน แต่ผมมองว่าใช้นอนได้อีกเตียงได้เลยนะนั่น

บริเวณนอกห้องนั้นเริ่มมืดแล้วครับ พอตกค่ำๆ สีของห้องพัก ก็สวยไปอีกแบบ

ตั้งแต่เข้ามาผมยังไม่ได้เปิดแอร์นะ อากาศดีมากๆ จนลืมแอร์ไปซะแล้ว

ดูภาพมุมกว้างของห้อง ในช่วงเวลา twilight กันอีกสักภาพ

ตกกลางคืน ใครมาเป็นคู่ ก็สามารถสร้างสรรค์บรรยากาศโรแมนติก ด้วยตัวเองได้ โดยโคมไฟหัวเตียง อิอิ

สำหรับตู้เย็น รีโมททีวี ไดร์เป่าผม อุปกรณ์เครืองใช้ และสวิทต์ไฟหลัก จะอยู่โซนหัวเตียงทั้งหมด

เราออกไปนั่งชมบรรยากาศนอกห้องบ้างเนาะ

ตะวันโพล้เพล้ เป็นช่วงที่บรรยากาศรอบๆ ห้อง และริมน้ำสวยมาก ใครพักปิงปาลีย์ รีอส์ท
ห้ามพลาดช่วงเวลานี้นะ

ชะเง้อมองที่ไปที่ Dining Room สักหน่อย ใกล้ถึงเวลาอาหารค่ำยังน้อ หิวแล้วอ่ะ

โต๊ะทานมื้อค่ำคืนนี้ บรรยากาศดีทีเดียวล่ะ

มาแล้วครับ เมนูของผมมื้อนี้คือ สเต็ก พ่อครัวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเจ้าของรีสอร์ทนี่แหละครับ

เอาเหอะ มาคนเดียวซะนี่ งั้นก็ขอโรแมนติกคนเดียวล่ะกัน

เป็นสเต็กที่อร่อยมากครับ ทีแรกผมกลัวว่าจะกินไม่หมด แต่จิบไวน์ไป ทานไปเรื่อยๆ ปรากฏว่า …เกลี้ยง

อิ่มเอาการอยู่ เลยต้องเดินเล่น เพื่อย่อยอาหารสักหน่อย

เสียดายว่าวันนี้มีเวลาน้อยไปหน่อย แป๊บเดียวก็ค่ำซะแล้ว ยังไม่ได้เดินชมรอบๆ รีสอร์ทสักเท่าไหร่

เดี๋ยวพรุ่งนี้ ค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้มันไม่ไหวแล้ว ขอนอนก่อนล่ะกันครับ zzz

——————————————————————————
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า ชะเฮ้ยยย !!! เช้าที่ไหน นี่มัน 9 โมงกว่าแล้ว คงเพราะฤทธิ์ไวน์เมื่อคืนแน่ๆ อิอิ

ชาวบ้านแถวนั้นเค้าออกทำมาหากินกันแล้ว เราเพิ่งตื่น… แต่เอ๊ะ ..ก็เรามาพักผ่อนนี่นา

ผมไม่แปลกใจครับ ว่าทำไมผมนอนจนตื่นสายแบบนี้ ก็เพราะอากาศ 17 องศานี่เอง เย็นสบายมากๆ

สายขนาดนี้ หวังว่ายังมีมื้อเช้าให้ทานอยู่นะ อิอิ

จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ มื้อเช้าก็รออยู่แล้ว พ่อครัวก็คนเดีมอีกนั่นแหละ อิอิ

หน้าตาหน้าทานเนาะ ตื่นซะสายแบบนี้ หิวแบบนี้ จะรอช้าทำไมกันล่ะ

ต้องยอมรับว่าอากาศตอนเช้าสุดยอดมาก มาพักผ่อนคราวนี้ ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ

ริมน้ำเช้าๆ แบบนี้ จิบกาแฟ หรือชาสักถ้วยนี่แจ่มเลยนะ

แต่พอดีผมไม่ดื่มกาแฟ เลยขอนอนชิลล์ๆ ล่ะกัน (เพิ่งตื่นนะนี่ นอนอีกล่ะ)

เจอแดดกระทบตอนเช้าๆ ทำให้น้ำสีเขียวเข้ม มองแล้วเย็นตาดีจริง ๆ

บรรยากาศตอนเช้ากับตอนเย็น คนละแบบกันเลย โชคดีจริงที่ผมได้สัมผัสทั้งสองช่วงเวลา

เดี๋ยวเราลองลงไปดูข้างล่างดีกว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

น้ำนิ่ง ใส เย็นดีซะด้วย ดูสิครับ สีเขียวปั๊ดเลย อยากกระโดดจริงไรจริง

ฝั่งตรงข้ามเป็นชายหาดสีขาว นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมว่ายน้ำข้ามไปแล้ว แต่ตอนนี้เอิ่ม…เอาไว้ก่อน

สระน้ำที่นี่ เป็นน้ำธรรมชาติจากแม่น้ำแควน้อยนี่แหละครับ ทางรีสอร์ทเค้าทำไว้ให้เล่นน้ำกัน
แบบสะดวกและปลอดภัย

เหมาะมากนะครับสำหรับ ใครที่อยากสัมผัสน้ำจริงๆ จากธรรมชาติ ไม่ใช่น้ำในสระที่มีแต่คลอรีน
หรือจะหัดว่ายน้ำก็ได้เนาะ ข้างล่างเป็นตาข่ายรับประกันว่าไม่จมไปไหนแน่ๆ

เราดูโซนริมน้ำกันไปแล้ว ต่อไปผมจะเริ่มจากโซนหน้ารีสอร์ทเลย

เข้ามาในปิงปาลีย์ เราจะเจอล๊อบบี้น่ารักๆ แบบนี้ ก่อนจะไปห้องพัก ก็นั่งดื่ม welcome drink
ให้หายเหนื่อยกันก่อน

หรืออาจเรียกว่าเป็นมุมกาแฟนะ จะสั่งกาแฟสด มาดื่มให้หายเหนื่อยกันก่อนก็ได้

ถึงแม้ล๊อบบี้จะไม่ได้ติดริมน้ำ แต่ความโล่ง โปร่ง ก็ช่วยให้มีลมพัดผ่าน เย็นสบายดีทีเดียวครับ

มุมนี้เราสามารถเห็นโซนหน้ารีสอร์ททั้งหมด รวมถึงที่จอดรถ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรีสอร์ท

ถัดมาจากล๊อบบี้ก็จะเป็น จุดบริการสำหรับฟิตเนส อาจจะมีอุปกรณ์ไม่เยอะ แต่ก็เพียงพอสำหรับวันพักผ่อนเบาๆ

เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าว ก็จะเจอป้ายบอกทางแบบนี้ ซ้ายมือเป็นห้องซาวน่า ขวามือเป็นห้องคาราโอเกะ

ผมขอไปดูห้องคาราโอเกะ ทางขวาก่อนล่ะกัน

ไอยะ เปิดประตูเข้าไปนี่ สีมันจี๊ดมากเลย สีสวยมากครับ

คราแรกผมคิดว่า ปิงปาลีย์มีห้องพักแนวโรแมนติค แบบนี้ ห้องคาราโอเกะ ก็คงสำหรับคนแค่สองคน

แต่ห้องมันกว้างซะ 10 คน ยังไหวเลยนะนี่

เราย้อนออกกลับมาดูห้องทางซ้ายมือ ก็คือห้องซาวน่ากันบ้าง

ห้องนี้ถูกออกแบบให้มิดชิด ไม่สามารถมองเห็นได้จากด้านนอก แต่ก็ยังมีช่องรับแสง
ทำให้ห้องดูไม่ทึบหรือมืดเกินไป

เป็นห้องซาวน่าที่มีความกะทัดรัด และอุปกรณ์ต่างๆ ครบครันดีทีเดียว

มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ทีวี น้ำดื่ม กาแฟพร้อม เปิดบริการตลอดถ้าลูกค้าต้องการนะครับ

ถัดมาจากห้องซาวน่า จะเป็นห้องพระ ซึ่งพี่ป้อมเจ้าของรีสอร์ท เป็นคนชอบนั่งสมาธิ จึงมีห้องนี้ขึ้น

แต่ลูกค้าคนไหนต้องการไหว้พระ หรือนั่งสมาธิ ทางรีสอร์ทก็ยินดี

เดินชมกันต่อไป เราจะเจอห้องพัก 3 ห้องติดกัน คือ ปิงปาลีย์ 5-7

ห้องพักโซนนี้จะเหมือนกันทั้ง 3 ห้องครับ แต่ห้องปิงปาลีย์7 จะเป็นห้องที่ต่างจากห้องอื่น ตรงที่มีโซฟา

สีของห้องพักนั้น จะเป็นโทนสีคล้ายๆ กัน ห้องนี้ผมมองว่าเป็นห้องที่กะทัดรัดดีมาก

หากเราสังเกตดูสีในห้องนั้นจะมีไม่กี่สี แต่เค้าออกแบบได้เข้ากันอย่างลงตัว ห้องพักดูสวยได้
โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีสันสันฉูดฉาด

ห้องน้ำของปิงปาลีย์ 7 open หรือเปล่า ดูได้จากประตูในกระจก อิอิ

ผมละชอบโซฟาแต่ละห้องของปิงปาลีย์ จริงๆ เลย นอกจากนั่งเล่นแล้ว นอนเล่นก็ยังได้เลย

สีสันของระเบียงด้านนอก ก็สะดุดตาใช่เล่นครับ เห็นแล้วชวนให้นั่งมากมาย

ปิงปาลีย์ 7 มีระเบียงที่กว้างเป็นพิเศษ ห้องพักอาจไม่ติดริมน้ำตรงๆ แต่ก็สามารถเห็นวิวแม่น้ำได้จากลานระเบียง

ผมขอข้ามห้อง ปิงปาลีย์ 5-6 ไปเลยเนาะเพราะมีแขกเข้าพัก แต่ยังไงห้องพักก็คล้ายๆ
กับปิงปาลีย์ 7 นี่แหละครับ

หากเดินกลับออกมาทางเดิม เดินไปหน่อย ขวามือก็จะเป็นห้องพัก ปิงปาลีย์3-4 โซนนี้ห้องไม่ว่าง
ผมเลยไม่ได้เข้าไปครับ

ต่อไปเราไปยลห้องปิงปาลีย์8 กันต่อ ซึ่งเมื่อวานตอนเย็นผมได้ถ่ายภาพให้ชมไปบ้างแล้ว

ปิงปาลีย์8 เป็นอีกห้องนึงที่ติดริมน้ำ ห้องนี้สวยมาก ระเบียงหน้าห้องพัก มองเห็นวิวแม่น้ำแควน้อย
ได้อย่างชัดเจน

โทนสีห้อง เหมือนกับห้องอื่นๆ คือพื้นห้องสีขาวครีม ตัดกับโทนสีส้มแดง ของผ้าปูเตียงและหมอน

มีประตูกระจก ที่สามารถเปิดรับอากาศบริสุทธิ์จากข้างนอกได้เต็มที่ เรียกว่าแอร์ธรรมชาติก็เย็นสบายแล้วล่ะ

ระเบียงนั้นติดกับต้นไม้ใหญ่และแม่น้ำแควน้อย นอนรับไอธรรมชาติกันได้เต็มๆ

ห้องน้ำของปิงปาลีย์8 นั้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะอยู่ซ้ายมือ แยกออกไปเหมือนเป็นอีกห้องนึงเลย

ผมชอบห้องน้ำห้องปิงปาลีย์8 มาก เพราะแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน
มีไม้ประดับ ทำให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนอย่างไงอย่างงั้น

ถึงแม้ตอนนี้แดดเริ่มจะแรงขึ้นตามเวลา แต่ภายในห้องยังเย็นสบายได้โดยไม่ต้องเปิดแอร์เลยครับ
น่านอนจริงๆ (อีกล่ะ)

อยากจะลองเอนกายลงบ้าง แต่ก็นะเดี๋ยวผ้าปูเค้ายับ เอาแค่ได้เข้ามาชมก็สมใจล่ะ

มุมนั่งชิลๆ ที่ระเบียงหน้าห้อง ลมพัดโกรกเบาๆ ได้อารมณ์ริมน้ำดีแฮะ

ขอนั่งพักบ้างไรบ้างน่ะ ….เอาล่ะ ยังพอมีเวลาพาไปชมกันอีกสักห้องนึง..

ใช่ครับ อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่า บันไดหน้าห้องปิงปาลีย์8 นั้นเป็นทางลงไปยังห้องปิงปาลีย์1

เดินลงไปแล้ว ลองมองย้อนกลับมา มุมก็สวยดีเนาะ

ห้องปิงปาลีย์1 เป็นห้องที่มีลักษณะคล้ายห้องปิงปาลีย์2 มากที่สุด
เพียงแต่ห้องนี้อยู่ทางซ้ายมือ หากเราหันหน้าเข้าหาแม่น้ำแควน้อย

ซึ่งเป็นห้องพักที่มีระเบียงหน้าห้องติดกับแม่น้ำแควน้อยเลย

ผมคาดว่าห้องนี้ บรรยากาศตอนกลางคืน ก็คงสวยไม่แพ้ห้องปิงปาลีย์2 แน่ๆ

อ่างอาบน้ำ รอให้คุณไปนอนแช่น้ำเล่น พร้อมชมวิวแม่น้ำสีเขียวใส ที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น

ส่วนห้องน้ำนั้น ก็เป็น open ชวนให้วาบหวิว เช่นเดียวกันกับห้อง ปิงปาลีย์2

ขอนั่งพักบนโซฟานุ่ม หน่อยนะ อย่างที่รู้ๆ กัน ไปพักรีสอร์ทไหน ถ้าห้องพักมีกลิ่นอับนี่ รู้สึกเสียอารมณ์เนาะ
แต่ที่นี่คงไม่มีอ่ะ ก็ดูสิ แสงส่องซะทั่วห้องขนาดนี้

เตียงนุ่มๆ ใหญ่น่านอนซะเหลือเกิน หวังว่าคงยั่วยวนให้ใครหลายๆ คน อยากนอนมั่งเนาะ อิอิ

พอๆ อยู่ใกล้เตียงมากไม่ได้ ตาชักจะปรือๆ ทุกที ไปชมระเบียงกันบ้างดีกว่า

ว้าวว วิวหน้าห้องปิงปาลีย์1 ก็แจ่มไม่แพ้ห้องไหนเหมือนกัน ว่าไม๊?

หากใครพักที่นี่แล้วอยากได้ห้องพักวิวดีๆ …ปิงปาลีย์1 ก็โอเคเลยล่ะ สำหรับความเห็นผม

ต่อไปเป็นห้องสุดท้าย ที่ผมจะรีวิวให้ดูกันวันนี้ นั่นคือ ปิงปาลีย์9

ปิงปาลีย์9 เป็นห้องพักติดริมน้ำอีกเช่นกัน โดยเป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างของปิงปาลีย์1 ตามภาพครับ

แค่วิวหน้าห้องก็ชวนให้เข้าไปชมซะแล้วล่ะ ป่ะ เดี๋ยวเราไปสำรวจพร้อมกัน

ก้าวข้ามประตูไป ก็เจอวิวแบบนี้เลยครับ สำหรับปิงปาลีย์9

ปิงปาลีย์9 อาจจะไม่ใหญ่เหมือนเหมือนห้องปิงปาลีย์1 และ 2 นะครับ แต่ ขนาดห้องนั้นก็เกินพอสำหรับ 2 คน

ห้องนี้ต้องบอกว่าใกล้ริมแม่น้ำกว่าทุกๆ ห้องนะ เพราะอยู่ชั้นล่างเลย กระโดดจากระเบียงลงน้ำได้เลยมั้ง
(อย่าทำตามผมนะ 55)

ห้องน้ำอาจจะเล็กลงไปตามสัดส่วนของห้อง แต่พื้นที่ใช้สอยก็ยังเหลือเฟือ

ผมรู้สึกชอบห้องปิงปาลีย์9 เป็นพิเศษ บอกกับตัวเองไว้เลย ถ้ามีโอกาสมาพักที่นี่อีก ห้องนี้แแหละที่ผมจะเลือก

หากดูจากมุมนี้จะเห็นได้ชัดเลยครับ ว่าปิงปาลีย์9 นั้นใกล้กับริมแม่น้ำขนาดไหน

ตอนนี้เลยเวลาเที่ยงมาแล้ว ผมคิดว่าคงถึงเวลากลับแล้วล่ะครับ

ปิงปาลีย์รีสอร์ท ที่พัก ไทรโยค เป็นรีสอร์ที่มีห้องพักเพียง 9 ห้อง ดังนั้นการดูแลของรีสอร์ทจึงเป็นไปอย่างทั่วถึง รีสอร์ทเน้นความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว เหมาะอย่างยิ่งกับการพักผ่อน อีกทั้งตัวรีสอร์ทอยู่ติดกับริมแม่น้ำแควน้อย สายน้ำใสและ สีเขียวของต้นไม้ จะช่วยทำให้รู้สึกถึงความสดชื่นของอากาศ และผ่อนคลายไปกับวันหยุดได้อย่างเต็มที่ อาหารที่แสนอร่อย มาพร้อมกับความใส่ใจในการให้บริการ ทำให้ปิงปาลีย์ดึงดูดใจให้ผมต้องไปเยือนอีกครั้ง

จริงแท้แค่ไหน ท่านต้องมาพิสูจน์เองที่ …..ปิงปาลีย์ รีสอร์ท ไทรโยค กาญจนบรี ไกล้ ๆ กรุงเทพแค่นี้นี่เอง…

ดูริวิวปิงปาลีย์รีสอร์ทเพิ่มเติม ได้ที่ ช่วงเวลาแห่งความสุข @ ปิงปาลีย์ รีสอร์ท กาญจนบุรี

ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พัก
โทรศัพท์ : 090 1387309, 087 5492744
อีเมล์ : pingplalee@gmail.com
เวปไซต์ : www.pingplaleeresort.com

ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง …..

Exit mobile version